การเดินทางโดยรถโดยสารถือว่าเป็นการเดินทางยอดนิยมเลยที่เดียว เพราะเป็นวิธีการที่ประหยัดเงินในกระเป๋าที่สุด
สามารถเลือกการเดินทางได้ 2 รูปแบบคือ
1. รถไฟ

จากหัวลำโพงนั่งรถไฟขบวน 69 กรุงเทพ - หนองคาย
รถออกเดินทางจากกรุงเทพเวลา 20.00 น. ถึงสถานีหนองคายในเวลาประมาณ 08.25 น.
ตู้โดยสารชั้น 3 ราคาค่าตั๋วโดยสารประมาณ 150 บาท / คน
ตู้โดยสารชั้น 2 (นั่งปรับอากาศ) ราคาค่าตั๋วโดยสารประมาณ 350 บาท / คน
ตู้โดยสารชั้น 2 (นอน-พัดลม) เตียงล่าง ราคาค่าตั๋วโดยสารประมาณ 600 บาท / คน
เตียงบน ราคาค่าตั๋วโดยสารประมาณ 400 บาท / คน
ตู้โดยสารชั้น 2 (นอน-แอร์) เตียงล่าง ราคาค่าตั๋วโดยสารประมาณ 600 บาท / คน
เตียงบน ราคาค่าตั๋วโดยสารประมาณ 800 บาท / คน

จากสถานีรถไฟหนองคายจ้างรถจัมโบ้ให้มาส่งที่ด่านตม.สะพานมิตรภาพไทย - ลาวราคาคนละ 40 บาท
เมื่อผ่านการตรวจหนังสือเดินทางเรียบร้อยแล้วสามารถซื้อตั๋วรถเมล์โดยสารที่วิ่งเฉพาะรับ - ส่งผู้โดยสาร
ข้ามสะพานในราคาคนละ 16 บาท (4,000 กีบ) ซึ่งจะมีตู้เคาท์เตอร์ขายตั๋วอยู่ตรงบริเวณด่าน ตม.
ที่ด่านตม.หนองคาย (ด่านเปิด 06.00น.-22.00น.) จะมีค่าธรรมเนียมตม.คนละ 5 บาท
ส่วนด่านตม.ฝั่งลาว จะมีค่าธรรมเนียมล่วงเวลาวันเสาร์-อาทิตย์ และนอกเวลาราชการ คนละ 5,000 กีบ (ประมาณ 20 บาท)
จากด่านตม.ฝั่งลาว จ้างรถไปส่งที่สถานีขนส่งสายเหนือถนนเต 2 (T2)
ดูตารางเดินรถสายเหนือ, ประเทศลาว

ซึ่งจะมีรถรับจ้างทั้งแบบเหมาและแบบรอผู้โดยสารเต็มแล้วค่อยออกค่าโดยสารคนละประมาณ 100 บาท
แต่ถ้าเหมาราคาก็จะอยู่ในราวๆ 500-700 บาท เพื่อซื้อตั๋วรถโดยสารต่อ เพื่อไปหลวงพระบาง
.jpg)
2. รถทัวร์

กรุงเทพ - อุดร - เวียงจันทน์ - หลวงพระบาง
การเดินทางด้วยรถทัวร์จากกรุงเทพลงที่สถานีขนส่งจังหวัดอุดรธานีแล้วต่อรถโดยสารระหว่างประเทศ
อุดรธานี – เวียงจันทน์ ราคาค่าโดยสารคนละ 80 บาท
ดูตารางเดินรถระหว่างประเทศ
.jpg)
ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงถึงสถานีขนส่งเวียงจันทน์ ที่ด่านตม.หนองคาย (ด่านเปิด 06.00น.-22.00น.)
จะมีค่าธรรมเนียม ตม. คนละ 5 บาท ซึ่งจะเก็บรวมอยู่ในตั๋วรถเรียบร้อยแล้ว
ส่วน ตม.ฝั่งลาว จะมีค่าธรรมเนียมล่วงเวลาวันเสาร์-อาทิตย์ และนอกเวลาราชการ คนละ 5,000 กีบ (ประมาณ 20 บาท)
จากสถานีขนส่ง (ตลาดเช้า) จ้างรถจัมโบ้ที่จอดรอผู้โดยสารอยู่บริเวณด้านหน้าเพื่อไปส่งที่สถานีขนส่งสายเหนือถนนเต 2 (T2)
ราคาค่าโดยสารคนละประมาณ 10,000 กีบ (40 บาท) ซื้อตั๋วรถโดยสารที่สถานีโดยสาร
ดูตารางเดินรถสายเหนือ, ประเทศลาว
ถ้าเป็นรถแบบ VIP จะรถปรับอากาศและมีห้องน้ำในตัวรถ หากเป็นรถพัดลมธรรมดา (ไม่มีห้องน้ำ)
ซึ่งในแต่ละวันจะมีรถแบบ VIP เพียง 2 เที่ยว/วันเท่านั้นคือเที่ยว 08.00 น.และ 09.00 น.

เวียงจันทน์ – หลวงพระบาง
ระยะทางประมาณ 385 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 9 ชั่งโมง
จากสถานีขนส่งสายเหนือ (T2) รถจะแล่นผ่าน เมืองสีไค เมืองโพนโฮง เมืองวังเวียง เมืองกาสี
(ที่กาสีรถจะจอดแวะเพื่อพักรถและให้ผู้โดยสารรับประทานอาหาร + ทำธุระส่วนตัวประมาณ 30 – 45 นาที)

ซึ่งหากนั่งรถโดยสารแบบ VIP หางตั๋วโดยสารสามารถนำไปแลกอาหารประเภทข้าวราดแกงหรือเฝอได้หนึ่งจาน
(แนะนำให้กินพออิ่ม) สภาพถนนตลอดเส้นทางจนถึงหลวงพระบางเป็นทางราดยางมีสองเลนรถ
วิ่งสวนกันไป - มาแต่ไม่ค่อยมีไหล่ทาง บ้านเรือนผู้คนก็จะปลูกริมถนนสลับกับทุ่งนาและป่าเขา
หลังจากรถออกจากเมืองกาสีขอแนะนำให้กินยาแก้เมารถไว้ด้วยก็จะดี (หาซื้อได้ที่ร้านอาหารที่รถแวะจอด)
เพราะเส้นทางต่อจากนี้จะเป็นการวิ่งบนเขาอย่างเดียวจากกาสี ผ่านเมืองพูคูน เมืองกิ่วกะจำ
เมืองเชียงเงิน และสุดท้ายปลายทางที่หลวงพระบาง เส้นทางจะคดเคี้ยวไปมาตามหุบเขาจนคุณ
อยากจะคายของเก่าที่พึ่งกินไว้ออกมาจนหมดนั่นแหละใครที่เคยไปเที่ยวอ.ปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ขอบอกว่าเส้นทางเวียงจันทน์ – หลวงพระบาง ช่วงออกจากเมืองกาสีโหดยิ่งกว่า โค้งเยอะกว่า
ซึ่งคงไม่สามารถบรรยายความรู้สึกออกมาได้หมดจนกว่าท่านจะมาสัมผัสเองจึงจะรู้
คิดง่ายๆว่าระยะทางแค่ 385 กิโลเมตร แต่ต้องใช้เวลาถึง 8 - 9 ชั่งโมง
(เวลาเดินทางเกือบเท่ากับกรุงเทพ - เชียงใหม่ซึ่งมีระยะทาง 700 กว่ากิโลเมตรเลยทีเดียว)
ถ้าสภาพเส้นทางไม่สุดๆคงจะไม่ใช้เวลานานขนาดนี้ แต่ถ้าคิดในอีกแง่มุมหนึ่งก็ถือได้ว่า
สภาพเส้นทางที่คดเคี้ยวเปรียบเสมือนมนต์เสน่ห์ที่สำคัญในการมาเยือนหลวงพระบางให้ออกรสออกชาติ
น่าจดจำตลอดไปเลยก็ว่าได้ เมื่อรถโดยสารมาจอดเทียบชานชลาที่สถานีรถสายใต้ (หลวงพระบาง)
จะมีคนขับรถจัมโบ้และพนักงานจากเกสต์เฮ้าส์เรือนพักหลายๆแห่งทั้งที่อยู่ในตัวเมืองและอยู่นอกเมือง
มารุมถามจุดหมายปลายทางที่ต้องการ ซึ่งก็สามารถเลือกเอาตามอัธยาศัย
แต่ถ้าคุณได้ทำการจองที่พักผ่านเว็บไซด์ของเราเรียบร้อยแล้วก็จะสะดวกที่สุด
แค่บอกจุดหมายปลายทางตามที่ทีมงานเราแจ้งกลับไปทางE-mail เพียงเท่านั้นก็เรียบร้อย
ถึงที่หมายมีห้องพักแน่นอน (สำหรับที่พักบางแห่งหากคุณจองผ่านเว็บจะมีบริการรถตู้รับ-ส่งฟรีด้วย)
ค่าโดยสารรถจัมโบ้เข้าเมืองถ้าเหมาประมาณ 200 บาท ถ้านั่งรวมมากับผู้โดยสารอื่นๆคนละ 40-45 บาท
หลวงพระบาง - เวียงจันทน์
ส่วนเที่ยวขากลับจากหลวงพระบาง มีให้เลือกทั้งรถโดยสาร (แบบตอนขามา)และรถตู้
ถ้าเลือกนั่งรถตู้ก็จะประหยัดเวลากว่านั่งรถโดยสาร สถานีรถตู้บ้านนาหลวงจะอยู่บริเวณตรงกันข้าม
กับสถานีขนส่งสายใต้ (ที่เดียวกับตอนขามา)
โดยรถตู้จะออกจากหลวงพระบางในเวลา 8 โมง, 9 โมง และ 10 โมงเช้า
ราคาค่าโดยสารคนละ 85,000 กีบ (กรณีรวมรถไปรับจากโรงแรมก็ 90,000 กีบ)
จะมีการหยุดจอดพักรถ 2 ครั้ง ครั้งแรก 10 นาที ครั้งที่สอง 30 นาที (พักทานข้าว)
หมายเหตุ รถตู้จะมีจุดหมายปลายทางที่วังเวียงเท่านั้น จะไม่มีรถวิ่งมาจนถึงเวียงจันทน์
ถ้าต้องการจะเข้าเวียงจันทน์จะต้องหารถเหมาต่อจากวังเวียงอีกทอดหนึ่ง
(ดังนั้นถ้าไม่ได้ต้องการจะแวะเที่ยวที่วังเวียงไม่แนะนำให้เดินทางด้วยวิธีนี้
เพราะจะเปลืองทั้งเวลาและเงินโดยไม่จำเป็น)
จากวังเวียงมีรถหลากหลายชนิดให้เลือกเช่นกัน เช่น รถแบบสองแถวธรรมดาราคา
คนละ 25,000 กีบ (ประมาณ 100 บาท) เมื่อเดินทางถึงสถานีขนส่งเวียงจันทน์
สามารถเลือกเดินทางโดยรถโดยสารระหว่างประเทศ
ดูตารางเดินรถระหว่างประเทศ
แต่ถ้าหากมาไม่ทันรถระหว่างประเทศหมดเสียก่อน
จะมีคนขับรถรับจ้างเข้ามาถามว่าเองว่าจะไปสะพานฯ หรือเปล่า
(หมายความว่าจะส่งแค่เชิงสะพานทางฝั่งลาวเท่านั้น)
ซึ่งจะมีทั้งแบบเหมาและแบบรอผู้โดยสารเต็มแล้วค่อยออกค่าโดยสารคนละประมาณ 80 บาท
แต่ถ้าเหมาราคาก็จะอยู่ในราวๆ 500 บาท เหมาะกับผู้ที่เดินทางมากันหลายๆคนหรือรีบเร่ง
เพื่อต้องการไปให้ทันเวลารถหรือเครื่องบินที่จองไว้ฝั่งไทยพอผ่านด่านตม.ลาวออกมาแล้ว
จะมีรถโดยสารที่วิ่งเฉพาะรับ-ส่งผู้โดยสารข้ามสะพานให้บริการ ค่าโดยสารคนละ 15 บาท
มีรถโดยสารวิ่งข้ามสะพานทุกๆ 10 นาที

สามารซื้อตั๋วได้ที่โต๊ะขายตั๋วตรงทางเดินออกจากด่านตม.ลาว เมื่อมาถึงด่านตม.ฝั่งไทย
สามารถจ้างรถจัมโบ้เพื่อไปส่งที่สถานีรถไฟหรือที่สถานีขนส่งเพื่อเดินทางกลับกรุงเทพต่อไป
|